Metaverse คืออะไร?

Metaverse คือ โลกเสมือนจริงขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างบนโลกดิจิทัลโดยจะมีความต่อเนื่องในการประมวลผลและมีสถานการณ์จำลองแบบเรียลไทม์ ให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงโลกและสถานการณ์จำลอง 3 มิติต่าง ๆ ได้ด้วยบัญชีของตนเอง ซึ่งความเสมือนจริงจะถูกถ่ายทอดมาในรูปแบบของการดำเนินชีวิตและกิจกรรมในโลกเสมือนจริงนั้น ไม่ว่าจะเป็น การสร้าง Avatar ตัวแทนตัวตนของเรา มีสิ่งของเครื่องใช้ไอเทมต่าง ๆ เพื่อเอื้ออำนวยต่อการใช้ชีวิตในโลกเสมือน รวมถึงการดำเนินชีวิต สะสมพลังงาน การใช้จ่าย และสิทธิประโยชน์อื่น ๆ โลกเสมือนจริงจะสามารถรองรับประชากรได้จำนวนมาก และทุกคนสามารถใช้งานและสัมผัสสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกใบนี้ไปพร้อม ๆ กัน โดยแต่ละคนจะไม่ใช่แค่มองสิ่งที่เกิดขึ้นผ่านจอ แต่จะได้มีปฏิสัมพันธ์ทางกายกับสภาพแวดล้อมและผู้คนด้วยตัวเองจริง ๆ ด้วย

ที่มาของ Metaverse

Metaverse ตามวิสัยทัศน์ของ Meta (เดิม Facebook) คือโลกดิจิทัลที่ผู้ใช้สามารถสื่อสาร ทำกิจกรรม หรือทำงานร่วมกับผู้ใช้คนอื่นได้อย่างเหนือชั้นกว่าโซเชียลมีเดียในปัจจุบัน โดยจะนำเทคโนโลยี Augmented Reality (AR) และ Virtual reality (VR) เข้ามายกระดับการรับชมและมีส่วนร่วมกับโลกดิจิทัล นอกจากนี้ Metaverse จะนำเทคโนโลยีบล็อกเชน คริปโทเคอร์เรนซี และ NFT (Non-fungible token) เข้ามาใช้เพื่อทำให้ผู้ใช้สามารถแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการผ่าน Metaverse ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว และไม่ต้องผ่านตัวกลาง

ด้วยแนวคิดดังกล่าว โลกของ Metaverse จะเกิดสื่อและคอนเทนต์รูปแบบใหม่ ๆ ขึ้นมา เหล่าศิลปินสามารถสร้างผลงานรูปแบบใหม่ ๆ ผ่านเทคโนโลยี AR หรือ VR ไม่ว่าจะเป็นผลงานศิลปะแบบ 3 มิติ เครื่องแต่งกายสำหรับอวตารของผู้ใช้บน Metaverse เป็นต้น หรือจะขายผลงานโดยใช้เทคโนโลยี Cryptocurrency และ NFT ก็ได้เช่นกัน และหาก Metaverse ประสบความสำเร็จก็จะทำให้เกิดอาชีพใหม่ ๆ ขึ้นมาอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น 3D Artist, Content Creator, Developer และอีกมากมายที่จะเข้ามาช่วยสร้างโลกของ Metaverse ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

ใช้ชีวิต ซื้อที่ ทำฟาร์ม บน Bitkub Metaverse โลกเสมือนของคนไทย

สำหรับในประเทศไทยก็ได้มีการพัฒนาโปรเจค Metaverse มาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2566 ได้มีการเปิดตัว Bitkub Metaverse อย่างเป็นทางการโดย บริษัท บิทคับ บล็อกเชน เทคโนโลยี จำกัด ที่ได้เปิดให้ผู้เล่นเข้าไปสำรวจและร่วมสนุกบนโลกแห่งใหม่ นับว่าเป็นปรากฏการณ์การเปิดตัวโลกเสมือนครั้งยิ่งใหญ่ของประเทศไทย เป็นจุดเริ่มต้นที่ผู้เล่นสามารถสนุกกับกิจกรรม และเพลิดเพลินไปกับงานดีไซน์เมืองที่มอบความบันเทิงในหลากหลายมิติ โดยวันนี้ทีมงานจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักฟังก์ชันบนโลก Bitkub Metaverse ณ ปัจจุบันและอนาคต รวมถึงกิจกรรมต่าง ๆ ที่ชาว Rabbitian ไม่ควรพลาด โดยผู้เล่นจะได้สัมผัสความเสมือนจริงยกตัวอย่างเช่น

  1. การสะสมพลังงาน

การอยู่ใน Metaverse นั้นจำเป็นต้องมีการสร้างและสะสมพลังงาน (Stamina) ที่ใช้สำหรับทำกิจกรรมบนโลกเสมือนนี้ไม่ว่าจะเป็น การวิ่ง การเดิน การขุดดิน การทำฟาร์ม หรือแม้แต่ยืนเฉย ๆ ซึ่งหากเราเคลื่อนที่หรือทำกิจกรรม ก็จะสูญเสียพลังงาน ทำให้ชาว Rabbitian จำเป็นจะต้องวางแผนการใช้พลังงานให้ดี โดยการใช้พลังงานจะขึ้นอยู่กับน้ำหนักไอเทมที่ถือและขนาดของช่องเก็บของของแต่ละตัวอีกด้วย โดยหลังจากชาว Rabbitian ทำกิจกรรมจนพลังงานหมดแล้ว ตัวละครจำเป็นต้องฟื้นฟูพลังงานเพื่อโลดแล่น ใช้ชีวิต และทำกิจกรรม โดยสามารถรีชาร์จได้ง่าย ๆ ผ่านทาง

  • การใช้ไอเทม – ชาว Rabbitian สามารถใช้ Potion อาหาร และน้ำผลไม้ต่าง ๆ เพื่อเพิ่มค่าพลังงาน
  • การนอนบนเตียง – สามารถเพิ่มพลังงานได้ 3 ชั่วโมง โดยการนอนบนเตียงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการรีชาร์จพลังงาน (หากต้องการนอนบนเตียงใหม่อีกครั้ง จะต้องรอเวลา Cool Down 3 ชั่วโมง) ซึ่งจำนวนเตียงจะขึ้นอยู่กับจำนวนห้องนอนของบ้านแต่ละแบบ
  • การนั่งเก้าอี้ส่วนตัว – สามารถเพิ่มพลังงานได้ 1 ชั่วโมง (หากต้องการนั่งเก้าอี้ส่วนตัวอีกครั้ง จะต้องรอเวลา Cool Down 4 ชั่วโมง)
  • การนั่งบนม้านั่งสาธารณะ – สามารถเพิ่มพลังงานได้ 35 นาที (หากต้องการนั่งบนม้านั่งสาธารณะอีกครั้ง จะต้องรอเวลา Cool Down 4 ชั่วโมง)
  • การ Log Out – หลังจากออกจากระบบ ค่าพลังงานจะเพิ่มขึ้น 1 หน่วยในทุก ๆ 7 นาที
  1. การเป็นเจ้าของที่ดิน

ที่ดินบน Bitkub Metaverse เป็นสิ่งสำคัญในการวางที่อยู่อาศัย (Building) ซึ่งที่อยู่อาศัยมีอรรถประโยชน์ที่หลากหลาย เช่น เป็นพื้นที่สำหรับวางเตียงนอนให้ตัวละครได้ฟื้นฟูพลังงานได้ไวขึ้น หรือตกแต่งที่อยู่ด้วยเฟอร์นิเจอร์ได้อย่างเพลิดเพลิน และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยที่ดินบน Bitkub Metaverse จะมีมากกว่า 10,000 แปลง โดยพื้นที่บน Bitkub Metaverse จะมีทั้งหมด 6 โซน ประกอบด้วย Bitkub City, XRB City, Mutelulu, Port Town, The Oasis (Lake Land) และ Pioneer Village โดยผู้ใช้งานสามารถสร้างบ้าน ทำธุรกิจ เปิดร้าน และใช้เป็นจุดรีชาร์จพลังงานได้ (ในเฟสแรกเปิดจองเพียง Bitkub City และ Mutelulu เท่านั้น)

  1. การทำฟาร์ม

ฟาร์มสำหรับเพาะปลูกจะมีทั้งหมด 4 รูปแบบ ซึ่งแต่ละรูปแบบจะจำกัดว่าสามารถเพาะปลูกผลผลิตได้แค่ตามชนิดที่กำหนดไว้เท่านั้น และราคาผลผลิตจะขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้เล่น ณ ขณะนั้น โดยผู้เล่นสามารถซื้อเมล็ดที่ต้องการปลูกและปลูกในพื้นที่ฟาร์มของตนเอง หากผลผลิตโตเต็มวัยแล้ว จะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตเพื่อนำไปขาย ณ สัมปทานหรือใช้งานต่อได้ อีกทั้ง หลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตเรียบร้อยแล้ว ยังสามารถปลูกผลผลิตชนิดอื่น ๆ ต่อไปได้ตามชนิดที่อยู่ในฟาร์มประเภทเดียวกัน ทั้งนี้ ในเฟสแรกมีจะมีจำนวน 101,250 Units

(ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลง อ้างอิง ณ วันที่ 24 สิงหาคม 2566)

อ้างอิง: Bitkub Metaverse, Bitkub Blog, Bitkub Academy, Investopedia

หมายเหตุ: เนื้อหาและกิจกรรมดังกล่าวจัดทำขึ้นโดย บริษัท บิทคับ บล็อกเชน เทคโนโลยี จำกัด ซึ่งไม่ใช่ผู้ประกอบธุรกิจภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงาน ก.ล.ต.คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

คำเตือน: สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

By admin