ภาพเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 3 มิถุนายนที่ผ่านมา จู่ๆ เรือรบของจีนก็แล่นตัดหน้าเรือพิฆาตติดขีปนาวุธนำวิถี “ชุง ฮุน” (Chung-Hoon) ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ที่ช่องแคบไต้หวัน

ส่วนนี่คือคลิปวิดีโออีกคลิปหนึ่งที่บันทึกได้จากด้านหน้าของเรือ “ชุง ฮุน” และปรากฎภาพเรือรบของจีนแล่นผ่านหน้าเรือรบสหรัฐฯ แบบระยะประชิด

กองบัญชาการภาคพื้นอินโด-แปซิฟิกของสหรัฐฯ แถลงว่า เรือรบของจีนได้แล่นเข้าหาเรือ “ชุง ฮุน” ด้วยระยะที่ไม่ปลอดภัย

กองทัพสหรัฐฯ ยิงบอลลูนสอดแนมต้องสงสัยเป็นของจีนตก

ความแตกต่าง ระหว่าง"บอลลูนพยากรณ์อากาศ-บอลลูนสอดแนม"

โดยเรือของจีนแซงหน้าเรือรบของสหรัฐฯ ปาดหน้าเฉียดหัวเรือในระยะใกล้ที่สุดคือ 150 หลา หรือไม่ถึง 140 เมตร ทำให้เรือ “ชุง ฮุน” ของสหรัฐฯ ต้องลดระดับความเร็วเหลือ 10 นอต เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เรือทั้ง 2 ลำชนกัน

จากนั้นเรือรบของจีนได้แล่นปาดหน้าเรือรบสหรัฐอีกครั้ง ห่างจากหัวเรือราว 2,000 หลา หรือประมาณ 1,800 เมตร จากทางขวาไปทางซ้าย และยังคงอยู่ตรงนั้นเป็นระยะเวลาหนึ่ง ก่อนจะแล่นออกไป

ด้าน นาวาเอก พอล เมาท์ฟอร์ด (Paul Mountford) ผู้บัญชาการเรือมอนทรีออล ซึ่งปฏิบัติหน้าที่บนเรือระหว่างเกิดเหตุได้วิพากษ์วิจารณ์การกระทำของจีน โดยกล่าวหาว่าจีนไม่มีความเป็นมืออาชีพ และเชื่อว่าจงใจแล่นเรือตัดหน้า เพราะได้มีการแจ้งเตือนผ่านระบบวิทยุก่อนหน้านั้นแล้วคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

นอกจากนี้ผู้บัญชาการเรือมอนทรีออลยังย้ำว่า การที่เรือแล่นในระยะประชิดกันเพียง 150 หลาถือเป็นเรื่องที่อันตรายมาก เพราะสามารถเกิดเรื่องไม่คาดฝันได้มากมาย รวมถึงการชนกันด้วย

ส่วนลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์จีนเช่นเดียวกัน โดยกล่าวหาว่า จีนได้แสดงพฤติกรรมที่ไร้ความรับผิดชอบ นอกจากนี้เขายังเรียกร้องให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนควบคุมพฤติกรรมของตัวเอง เพราะมองว่าเหตุการณ์เช่นนี้มีความสุ่มเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ช่องแคบไต้หวัน ทำให้เกิดการตั้งคำถามว่า เรือรบของสหรัฐฯ กับแคนาดาไปทำอะไรแถวนั้น กองบัญชาการภาคพื้นอินโด-แปซิฟิกของสหรัฐฯ แถลงว่า เรือพิฆาตติดขีปนาวุธนำวิถี “ชุง ฮุน” ของสหรัฐฯ และเรือฟริเกตของกองทัพเรือหลวงแคนาดาได้ปฏิบัติภารกิจตามหลักเสรีภาพในการลาดตระเวนตามปกติ ก่อนที่จะเกิดเหตุเรือรบของจีนแล่นปาดหน้า

นอกจากนี้ทั้งสหรัฐฯ และแคนาดายังย้ำว่า พวกเขาไม่ได้ดำเนินการผิดกฎหมาย เพราะบริเวณดังกล่าวเป็นน่านน้ำสากล ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีเสรีภาพในการเดินเรือ และยังกล่าวหาเรือรบของจีนด้วยว่าได้ละเมิดกฎการเดินเรือสากล (Rules of the Road) ว่าด้วยการเดินทะเลที่ปลอดภัยในน่านน้ำสากล

แต่ว่าจีนไม่คิดเช่นนั้น เพราะอะไร ช่องแคบไต้หวันมีความกว้างประมาณ 180 กิโลเมตร ตั้งอยู่ระหว่างมณฑลฝูเจี้ยนในจีนแผ่นดินใหญ่ และเกาะไต้หวัน

ช่องแคบนี้เป็นส่วนหนึ่งของทะเลจีนใต้ และเป็นเส้นทางเดินเรือขึ้นเหนือจากทะเลจีนใต้ไปยังทะเลจีนตะวันออก จุดนี้เป็นพื้นที่นี้ยังคงมีข้อพิพาทที่เชื่อมต่อจากทะเลจีนใต้

โดยสหรัฐฯ ยึดว่าช่องแคบไต้หวันเป็นน่านน้ำสากล ส่วนจีนมองว่าช่องแคบนี้คือส่วนหนึ่งของน่านน้ำตน จากนโยบายจีนเดียวที่ผนวกรวมไต้หวันด้วย และเนื่องจากมองว่าเป็นน่านน้ำสากล ที่ผ่านมา สหรัฐฯ และพันธมิตรมีการเดินเรือผ่านช่องแคบไต้หวันตลอด รวมถึงการเดินเรือรบด้วยการที่สหรัฐฯ เดินเรือเข้ามาที่นี่จึงทำให้จีนไม่พอใจ

ชุย เทียนข่าย (Cui Tiankai) อดีตเอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นดังกล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์สในช่วงนอกรอบการประชุมความมั่นคง “แชงกรีล่า ไดอะล็อก (Shangri-La Dialogue)” หรือ SLD ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศสิงคโปร์เมื่อวานนี้

เขาได้เตือนสหรัฐฯ ให้ยุติการส่งกำลังทหารเข้าไปใกล้จีน ถ้าการเจรจาของฝ่ายความมั่นคงระดับสูงของทั้งสองชาติกลับมาดำเนินต่ออีกครั้ง

นอกจากนี้ อดีตเอกอัครราชทูตจีน ยังระบุด้วยว่า คำถามที่แท้จริงต่อประเด็นนี้ไม่ใช่ คำถามที่ว่าทำไมเรือรบของจีนและเครื่องบินรบของจีนเข้าใกล้เรือรบ หรือเครื่องบินรบของชาติอื่น แต่คำถามคือ ทำไมประเทศเหล่านั้นถึงส่งกำลังทหารของตัวเองเดินทางข้ามมหาสมุทรมาถึงประตูหน้าบ้านจีน

ส่วนความเคลื่อนของ หลี่ ฉางฟู (Li Shangfu) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของจีนที่ได้กล่าวในที่ประชุมความมั่นคง“แชงกรีล่า ไดอะล็อก” เช่นเดียวกัน โดยเขาย้ำว่ากองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนจะไม่ลังเลแม้แต่วินาทีเดียวที่จะเป็นฝ่ายเปิดฉากสงครามกับบุคคลใดก็ตามที่กล้าแบ่งแยกไต้หวันออกจากจีน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม

ความสัมพันธ์ระหว่างจีน ไต้หวันและสหรัฐฯ กำลังถึงจุดเปลี่ยนสำคัญ แม้ว่าสหรัฐฯ และไต้หวันจะพยายามรักษาสถานะความสัมพันธ์ที่เป็นอยู่ก็ตาม

หลายสิบปีที่ผ่านมา สหรัฐฯ พยายามรักษา Status Quo หรือการรักษาสถานะความสัมพันธ์ที่เป็นอยู่ นั่นก็คือยึดนโยบายและรับรองจีนเดียว แต่รักษาความสัมพันธ์กับไต้หวันผ่าน Taiwan Relation Act 1979 ทำการค้าและร่วมมือด้านความมั่นคง

ขณะที่ไต้หวันเองก็พยายามรักษา Status Quo เหมือนกันคือ ไม่ประกาศเอกราช แต่ดำรงสถานะที่เป็นอยู่ในขณะนี้ นั่นก็คือมีรัฐบาลและสถาบันทุกอย่างของตนเอง

 เรือรบจีนแล่นปาดหน้าเรือรบสหรัฐฯ หวิดเกิดอุบัติเหตุ

รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า การรักษา Status Quo ทำให้ช่องแคบไต้หวันมีสันติยาวนานมาได้ถึง 40 ปี แต่การรักษาสถานะความสัมพันธ์ที่เป็นอยู่ ( Status Quo ) ของไต้หวันและจีนเริ่มทำได้ลำบากและกำลังบั่นทอนสันติภาพในช่องแคบไต้หวัน

ส่วนประเทศใกล้เคียง อย่าง ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ในที่ประชุมที่สิงคโปร์ อี จอง-ซัพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของเกาหลีใต้ และ ยาซูคาสึ ฮามาดะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นได้หารือกันนอกรอบในประเด็นข้อพิพาทด้านความมั่นคงที่สองประเทศยังคงค้างคากันอยู่

ประเด็นข้อพิพาทที่ว่านี้ เกิดขึ้นเมื่อปี 2018 หลังญี่ปุ่นเผยแพร่คลิปวิดีโอกล่าวหาว่า เรือรบของเกาหลีใต้ลำหนึ่งล็อกระบบอาวุธเล็งใส่เครื่องบินตรวจการณ์ของญี่ปุ่น แต่เกาหลีใต้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว และยืนยันว่าเรือของพวกเขาแค่กำลังปฏิบัติการค้นหาเรือประมงของเกาหลีเหนือลำหนึ่ง ที่ล่องอยู่ใกล้เขตแดนทางทะเลระหว่างสองเกาหลีเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม อี จอง-ซัพ ระบุว่า หลังการหารือนอกรอบเมื่อวานนี้ ทั้งเกาหลีใต้และญี่ปุ่นเห็นพ้องต้องกันที่จะเริ่มพูดคุยกันในระดับการทำงานและมุ่งเน้นไปที่มาตรการป้องกันเพื่อไม่ให้เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก

By admin